การเลือกตั้งมาเลเซีย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ว่า ผลการนับคะแนนการเลือกตั้งทั่วไปของมาเลเซีย ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ (5 พ.ค.) ปรากฏว่า หลังปิดหีบลงคะแนนผ่านไปประมาณ 9 ชั่วโมง และนับบัตรได้กว่า 2 ใน 3 ของทั้งหมด พรรคร่วมรัฐบาลในนาม “แนวร่วมแห่งชาติ” นำโดยพรรคอัมโนของ นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค คว้าชัยชนะได้สำเร็จ เมื่อได้ ส.ส. เข้าสู่รัฐสภาแล้วอย่างน้อย 127 ที่นั่ง ครองเสียงข้างมากจากทั้งหมดในรัฐสภา 222 ที่นั่ง สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้โดยเอกเทศ ขณะที่แนวร่วมฝ่ายค้าน 3 พรรค นำโดยนายอันวาร์ อิบราฮิม ได้ ส.ส. แล้ว 77 ที่นั่ง
นับเป็นชัยชนะการเลือกตั้งทั่วไป 13 ครั้งติดต่อกัน ของพรรคแนวร่วมแห่งชาติ ซึ่งผูกขาดครองอำนาจเป็นรัฐบาลมาตลอด ตั้งแต่มาเลเซียได้รับเอกราชจากอังกฤษเมื่อปี พ.ศ. 2500 และเป็นชัยชนะที่ค่อนข้างผิดความคาดหมายก่อนหน้านี้ ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์ชี้ว่า พรรคร่วมรัฐบาลจะเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่สุดจากฝ่ายค้าน
เจ้าหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติมาเลเซีย เผยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีประชาชนที่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนราว 13 ล้านคน ตัวเลขผู้ที่ออกไปใช้สิทธิสูงถึง 80 % หรือกว่า 10 ล้านคน โดยการลงคะแนนมีขึ้นในหน่วยเลือกตั้งกว่า 8,000 หน่วยทั่วประเทศ ระหว่างเวลา 08.00 น. – 17.00 น.
ผลการเลือกตั้งมาเลเซีย นาจิบ ราซัค สาบานตนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียต่อสมเด็จพระราชาธิบดี ขณะที่พรรคฝ่ายค้าน ทำหนังสือประท้วง ผลการเลือกตั้งมาเลเซีย 2013
เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้เดินทางไปเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านตวนกู อับดุล ฮาลิม มูอัซซอม ชาห์ ณ พระบรมมหาราชวัง ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อทำพิธีสาบานตนและถวายสัตย์ปฏิญาณ รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 อย่างเป็นทางการแล้ว
ขณะที่ พรรคปากาตัน รัคยัต หรือ พรรคแนวร่วมฝ่ายค้าน 3 พรรค ที่นำโดย พรรคความยุติธรรมปวงชน (พีเคอาร์) ของนายอันวาร์ อิบราฮิม ซึ่งได้ ส.ส. 89 ที่นั่ง จาก 222 ที่นั่ง ยังคงยืนกรานไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง และเตรียมยื่นหนังสือร้องเรียน ตลอดจนจะจัดการชุมนุมประท้วงต่อเนื่องเป็นเวลา 2 วัน เพื่อคัดค้านผลการเลือกตั้งด้วย
เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้เดินทางไปเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านตวนกู อับดุล ฮาลิม มูอัซซอม ชาห์ ณ พระบรมมหาราชวัง ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อทำพิธีสาบานตนและถวายสัตย์ปฏิญาณ รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 อย่างเป็นทางการแล้ว
ขณะที่ พรรคปากาตัน รัคยัต หรือ พรรคแนวร่วมฝ่ายค้าน 3 พรรค ที่นำโดย พรรคความยุติธรรมปวงชน (พีเคอาร์) ของนายอันวาร์ อิบราฮิม ซึ่งได้ ส.ส. 89 ที่นั่ง จาก 222 ที่นั่ง ยังคงยืนกรานไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง และเตรียมยื่นหนังสือร้องเรียน ตลอดจนจะจัดการชุมนุมประท้วงต่อเนื่องเป็นเวลา 2 วัน เพื่อคัดค้านผลการเลือกตั้งด้วย

